McKiEz

The Space Lonelyssey

มันมีสถานการณ์ทางสังคมอยู่แบบหนึ่ง

ซึ่งกูไม่อาจทำความเข้าใจได้ซักที ไม่รู้มันมีมาก่อนหรือหลังกำเนิด Facebook ก็ไม่รู้

จะขอเล่าให้ฟังเลยละกัน จะได้เข้าใจง่ายๆ

คือมีนาย A นามสมมุติคุง อยู่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับกูบน FB 

เราเจอกันเพราะมีความสนใจเรื่องหนึ่งเหมือนกัน แต่ความสนใจนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว

เราเลยไม่ได้แลกเปลี่ยนเรื่องนี้กันบ่อยๆเพราะมันดูไม่ดี

ทีนี้ ด้วยความที่เราไม่เคยเจอกัน เราก็จะคุยกันไม่กี่เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นกูที่ถามสารทุกข์สุขดิบ

นาย A นามสมมุติคุงก็เหมือนถามคำตอบคำ พอนานๆเข้า กูก็ขี้เกียจคุย เพราะเหนื่อย

นานๆไป

ความโรคจิตของกูก็จัดการลบเฟรนมันซะฉึบ

ในเวลาไม่นาน นาย A นามสมมุติคุง ก็ส่ง message มาบอกว่า รับแอดด้วย พร้อมรีเควสมา

กูก็รับไปเพราะเห็นว่าเคยคุยกันบ้าง แล้วเราก็เริ่มบทสนทนาแบบเดิม

แล้วกูก็เหนื่อยเดิม ก็ลบอีก แล้วเค้าก็ส่งรีเควสมาอีก

—@—

คือกูอยากรู้ว่ามันคือมารยาททางสังคม หรือกฎเกณฑ์ทางสังคมอะไรรึเปล่า

ที่คนที่ไม่ได้มีความสนิทกันจะต้องเป็น friend กันบน FB

คือออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เป็นแบบนี้กับทุกคนนะ แค่คนที่รู้สึกไม่คุ้นชินเฉยๆ

กับบางคนกูไม่ได้คุยเลย แต่รู้สึกเป็นห่วงตลอดก็มี แต่กับคนแบบนี้ไม่ใช่

แล้วทำไมเค้าต้องขอแอดกูเก็บไว้ด้วยฟ่ะ ไม่เข้าใจ อารมณ์เหมือนเพื่อนบ้านแบบนี้หรอ

อยากให้นักวิจัยหรือนักจิตวิทยามาสำรวจมากๆเลย

หวังว่าวันหนึ่งกูจะเข้าใจนะ

นี่หรือเมืองพุทธ

วันนี้ เพิ่งได้รู้ความลับจักรวาลเรื่องหนึ่ง

คือวันนี้พี่สาวเป็นคนตากผ้า แล้วหนีบไม่ดีรึยังไงไม่รู้

ยกทรงก็จรลีลงไปอยู่หลังบ้านข้างๆ เลยต้องไปขอความช่วยเหลือเค้า

พอบอกเค้าว่าทำเกงในหล่นเท่านั้นแหละ

เค้าช็อคจ้า!

ช็อคแบบ ช็อคจริงๆอะ

แล้วให้กูเข้าไปเก็บเอง เค้าก็เกริ่นออกมาว่า

“ลำบากแย่เลยเนอะ ยังต้องใช้ของสกปรกแบบนั้น”

กูก็งง ซักพักได้คุยสอบถามกันก็เข้าใจ

ว่าคนข้างบ้านเค้าไม่ใส่กางเกงในกัน ทั้งบ้าน!

คือ ไม่ใส่เลยอะ ยกทรง เกงใน ชายหญิง

ก็แปลกดีชีวีกู